ปลอกคอ GPS ที่ติดตาม หมา แมว แบบใส่ sim กับไม่ใส่ sim ต่างกันอย่างไร?

2 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ปลอกคอ GPS เครื่องติดตาม หมาแมว แบบที่ไม่ใส่ sim จะเป็นได้หลายแบบตามนี้

1. Bluetooth tracker - หรือเครื่องค้นหาด้วย สัญญาณ bluetooth เครื่องค้นหากลุ่มนี้จะมีระยะค้นหาตาม bluetooth ประมาณ 10-20 เมตร หากพ้นระยะค้นหาไปแล้ว จะต้องพึ่งพามือถือเครื่องอื่นในการแจ้งตำแหน่งกลับมา ตัวอย่างของเครื่องค้นหากลุ่มนี้ได้แก่

- Apple Airtag

- Samsung smartTag

- Nut pet finder

- เครื่องค้นหาราคาหลักสิบ - หลายร้อยบาท ใน Shopee lazada

ข้อดีคือ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ลูกแมวก็ใส่ได้ กินแบตน้อย ไม่ต้องใส่ sim และราคาไม่แพง

ข้อเสียคือ ระยะค้นหาสั้น

2. GPS logger - เครื่องค้นหากลุ่มนี้จะบันทึกตำแหน่งที่เครื่องเดินทางไป โดนเราจำเป็นจะต้องนำ memory card จากในเครื่องมาเช็คในคอมพิวเตอร์จึงจะเห็นตำแหน่งที่เคยไปมา ไม่สามารถเช็คตำแหน่งแบบ real time ได้

3. Radio frequency tracker - เครื่องค้นหาประเภทนี้ ทำงานคล้ายเครื่องค้นหาแบบ bluetooth และมีคุณสมบัติคล้ายกัน น้ำหนักเบา แบตอยู่ได้นานหลายเดือน แต่ระยะค้นหาจะไกลกว่า และบอกทิศทางได้ละเอียดกว่า โดยระยะค้นหาจะอยู่ที่ 30-100 เมตร ระยะจะสั้นลงหากมีสิ่งกีดขวาง

ตัวอย่างของสินค้ากลุ่มนี้ ได้แก่ Tabcat

ข้อดีคือ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ลูกแมวก็ใส่ได้ กินแบตน้อย ไม่ต้องใส่ sim จับสัญญาณได้ไวและบอกตำแหน่งได้ละเอียดกว่า bluetooth

ข้อเสียคือ ระยะค้นหาสั้น

ปลอกคอ GPS เครื่องติดตาม หมาแมว แบบที่ใส่ sim จะเป็นได้ 2 แบบใหญ่ๆ ตามนี้

1. แบบใส่ sim เอง - เราต้องซื้อ sim มาใส่เอง และ sim ต้องมีเนตด้วย และแบบใส่ sim ยังแบ่งไปอีกตามประเภทความถี่คลื่นที่รองรับ คือ

- 2G แบบนี้จะราคาถูก แต่เนื่องจากประเทศไทยได้ยกเลิก 2G ไปในหลายพื้นที่แล้ว ทำให้บางพื้นที่ไม่มีสัญญาณ หรือหากสัตว์เลี้ยงของเราไปอยู่ในจุดที่ไม่มี 2G ก็จะใช้งานไม่ได้

- 4G ราคาจะแพงกว่าหน่อย แต่สัญญาณครอบคลุมทุกจังหวัดและพื้นที่

ข้อดี คือ ไม่จำกัดระยะค้นหา อยู่ที่ไหนก็หาเจอ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้

ข้อเสีย แบตอยู่ได้ไม่กี่วัน ขนาดค่อนข้างใหญ่ เหมาะกับหมาหรือแมว หนัก 4 กก. ขึ้นไป และจะบอกตำแหน่งคลาดเคลื่อนบ้าง หากอยู่ในจุดอับสัญญาณ GPS เช่นใต้ดิน หรือในตึกสูง

2. แบบ e-sim - แบบนี้จะมี sim ฝังในเครื่องเลย เปลี่ยน sim ไม่ได้ โดยเราต้องจ่ายค่ารายเดือนให้กับแอปที่ให้บริการ ตกเดือนละ 160-350 บาท ขึ้นกับว่าเราจ่ายรายเดือนหรือรายปี เครื่องรุ่นใหม่จะเป็น 4G หมดแล้ว
สินค้ากลุ่มนี้คือ Tractive Cat - Tractive Dog

ข้อดีคือ การกันน้ำจะดีกว่าแบบใส่ sim เอง เพราะไม่มีรูเปิดเลย ไม่จำกัดระยะค้นหาเช่นกัน

ข้อเสีย จะคล้ายกันคือขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่แบตจะอยู่ได้นานกว่า สูงสุด 7 วัน ขึ้นกับการใช้งาน

ทำไมต้องใส่ sim?

- เพื่อใช้ในการส่งข้อมูลตำแหน่งกลับมาที่มือถือเรา

ข้อควรระวัง: ผมสังเกตเห็นร้านจีนหลายร้าน ใน shoppee lazada โฆษณาว่าเป็นปลอกคอ GPS ใช้สัญญาณ 4G แต่ราคาถูกมากๆ ให้ระวังไว้ว่าจะเป็นแค่ bluetooth เท่านั้น