ในปัจจุบัน ปลอกคอ GPS หรือเครื่องติดตามสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคน ด้วยอุปกรณ์ติดตามที่มีอยู่มากมาย การเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของสัตว์เลี้ยงของคุณจึงเป็นสิ่งจำเป็น บทความนี้จะเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของอุปกรณ์ติดตามสัตว์เลี้ยงยอดนิยมสามรุ่น: Apple AirTag, Tractive GPS Tracker cat and dog และ Tabcat
1. Apple AirTag
Apple AirTag เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กทรงกลมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยค้นหาสิ่งของส่วนตัว เช่น กุญแจ กระเป๋าสตางค์ และกระเป๋าเดินทาง โดยใช้เครือข่าย Find My ของ Apple ตัวเครื่องนั้นจะค้นหาด้วย Bluetooth รัศมี 15-20 เมตร
ข้อดี:
- การผสานรวมกับอุปกรณ์ Apple อย่างราบรื่น: ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับแอป Find My บน iPhone, iPad และ Mac
- เครือข่ายที่กว้างขวาง: ใช้อุปกรณ์ Apple จำนวนมากทั่วโลกในการช่วยค้นหา หากว่าเครื่องพ้นรัศมี bluetooth ของมือถือเราไปแล้ว แล้วไปเข้ารัศมี bluetooth ของอุปกรณ์ apple เครื่องอื่น ก็ยังจะสามารถส่งตำแหน่งกลับมาบอกเราได้
- ราคาย่อมเยา: มีราคาถูกกว่าปลอกคอ GPS แบบ Real Time
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน: ใช้แบตเตอรี่ CR2032 ที่สามารถใช้งานได้นานถึงหนึ่งปี
- คุณสมบัติความเป็นส่วนตัว: มีมาตรการป้องกันการสะกดรอย เช่น การแจ้งเตือนหากมี AirTag ที่ไม่รู้จักเดินทางไปกับคุณ
- น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก: ใส่ได้กับสัตว์เลี้ยงทุกขนาด
ข้อเสีย:
- ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับสัตว์เลี้ยง: ไม่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น การติดตามกิจกรรมหรือเขตปลอดภัยเสมือน
- พึ่งพาระบบ Apple: ต้องการอุปกรณ์ Apple ใกล้เคียงในการอัปเดตตำแหน่ง ซึ่งจำกัดประสิทธิภาพในพื้นที่ที่มีผู้ใช้ Apple น้อย
- ไม่มีการติดตามแบบ Real Time: อัปเดตตำแหน่งเป็นระยะ ไม่เหมาะสำหรับการติดตามทันที
- ข้อจำกัดด้านการกันน้ำ: มีมาตรฐาน IP67 หมายถึงกันน้ำได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่กันน้ำทั้งหมด
- ใช้กับ android ไม่ได้: ต้องมี iphone หรือ ipad เพื่อใช้กับ airtag เสมอ
2. Tractive GPS Tracker (cat mini และ for dog 4, Dog XL)
Tractive เป็นปลอกคออุปกรณ์ติดตาม GPS แบบเต็มรูปแบบ ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง ให้การติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงต่างๆ
ข้อดี:
- การติดตาม GPS แบบเรียลไทม์: ให้ตำแหน่งอัพเดทตำแหน่งแบบ Real time ที่เป็นปัจจุบัน
- ไม่จำกัดระยะค้นหา ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์อื่น: ทำงานได้ทุกที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เหมาะสำหรับการติดตามสัตว์เลี้ยงที่เดินทางไกล
- เขตปลอดภัยเสมือน: ให้คุณตั้งค่าพื้นที่ปลอดภัยและรับการแจ้งเตือนทันทีหากสัตว์เลี้ยงของคุณออกจากหรือเข้าสู่พื้นที่เหล่านั้น
- การติดตามกิจกรรม: ติดตามระดับกิจกรรม รูปแบบการนอนหลับ จำนวนก้าวและแคลอรี่ที่เผาผลาญของสัตว์เลี้ยงของคุณ
- ครอบคลุมระหว่างประเทศ: ทำงานในกว่า 150 ประเทศ ไม่เฉพาะแค่ประเทศไทย เหมาะสำหรับผู้ที่รักการเดินทาง
- ทนทานและกันน้ำ: มีความทนทาน เหมาะกับสัตว์เลี้ยงหลายรูปแบบ (มาตรฐาน IPX7)
ข้อเสีย:
- มีค่าบริการรายเดือน: ต้องมีแผนบริการรายเดือนหรือรายปีสำหรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ
- ไม่แม่นยำเมื่อไม่อยู่ในที่แจ้ง: เนื่องด้วยข้อจำกัดทางสัญญาณ GPS ที่ไม่สามารถเข้าถึงจุดอับได้ ทำให้หากเครื่องอยู่ในตึก ตำแหน่งจะไม่แม่นเท่าที่ควร
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่: ต้องชาร์จบ่อยๆ โดยทั่วไปใช้งานได้ 2-5 วันขึ้นอยู่กับการใช้งาน
- ขนาดใหญ่กว่าตัวอื่น: สัตว์เลี้ยงควรหนักมากกว่า 3 กก. ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดเล็ก
- ราคาสูงกว่า: มีราคาสูงกว่าเครื่องติดตามสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
3. Tabcat
Tabcat เป็นอุปกรณ์ติดตามที่ใช้เทคโนโลยีความถี่วิทยุ (RF) ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแมว เครื่องมีขนาดเล็ก จึงใส่กับสัตว์เลี้ยงได้ทุกขนาด การค้นหามีรัศมีที่จำกัด แต่ก็ยังไกลกว่า bluetooth
ข้อดี:
- การติดตามระยะใกล้ที่แม่นยำสูง: ระบุตำแหน่งสัตว์เลี้ยงของคุณได้ในระยะนิ้ว เหมาะสำหรับการค้นหาแมวที่ซ่อนตัว ทั้งในตึกและที่แจ้ง
- ไม่มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง: ไม่ต้องการการสมัครสมาชิกหรือ sim card
- แท็กน้ำหนักเบา: ขนาดเล็กและสวมใส่สบายสำหรับแมว
- ใช้งานง่าย: ไม่ต้องใช้มือถือ ไม่ต้องใช้ internet และสัญญาณมือถือ
ข้อเสีย:
- ระยะจำกัด: มีระยะค้นหาสูงสุดถึง 30-122 เมตร ไม่เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เดินทางไกล
- ไม่มี GPS หรือแผนที่: ไม่มีความสามารถในการแสดงตำแหน่งสัตว์เลี้ยงของคุณบนแผนที่
- ไม่มีคุณสมบัติเพิ่มเติม: ไม่ได้เสนอการติดตามกิจกรรมหรือเขตปลอดภัยเสมือน
- ระยะสั้นลงเมื่อมีสิ่งกีดขวาง: สิ่งกีดขวางทางกายภาพ เช่น ผนังหรือภูมิประเทศ อาจส่งผลต่อความแม่นยำของสัญญาณ
แล้วเครื่องติดตามอื่นๆ เช่น Nut mini,เครื่องติดตามแบบ bluetooth อื่นๆ หรือ Tracktrick TP03 ล่ะ?
Tracktrick TP03: ทำงานคล้ายๆ Tractive gps tracker แต่ต้องซื้อ sim มาใส่เอง การกันน้ำและความทนทาน ไม่เท่า tractive
Nut mini และอุปกรณ์ติดตามแบบ bluetooth อื่นๆ: ทำงานเหมือน Airtag สามารถใช้กับ android ได้ แต่จะไม่มีเครือข่ายแบบ apple
สรุป
การเลือกอุปกรณ์ติดตามที่เหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ
- Apple AirTag เหมาะสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ใช้ระบบ Apple และต้องการโซลูชันการติดตามพื้นฐานและราคาประหยัดสำหรับสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้บ้าน อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาอุปกรณ์ Apple ใกล้เคียงและการขาดการติดตามแบบเรียลไทม์ทำให้ไม่เหมาะสำหรับเมืองที่คนใช้ iphone น้อย เช่น ตามต่างจังหวัด ในป่า ถิ่นทุรกันดาร
- Tractive GPS Tracker เหมาะสำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงน้ำหนักมากกว่า 3 กก. ขึ้นไป และต้องการคุณสมบัติการติดตามที่ครอบคลุม รวมถึงการติดตาม GPS แบบเรียลไทม์ การติดตามกิจกรรม และเขตปลอดภัยเสมือน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและต้องมีค่าบริการรายเดือน แต่ก็มีการครอบคลุมที่กว้างขวางและข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและสุขภาพของสัตว์เลี้ยงของคุณ
- Tabcat เหมาะสำหรับเจ้าของแมวที่มักจะซ่อนตัวหรืออยู่ใกล้ๆ แมวที่อยู่ในคอนโด ตึกที่สัญญาณ GPS เข้าหายาก การติดตามระยะใกล้ที่แม่นยำของมันเหมาะสำหรับการค้นหาสัตว์เลี้ยงในที่ซ่อน แต่ไม่เหมาะสำหรับการติดตามระยะไกลหรือการให้ข้อมูลกิจกรรมการเคลือนไหว
เกร็ดเล็กน้อย เมื่อเลือกอุปกรณ์ติดตามสัตว์เลี้ยง ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
- พฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงของคุณ: สัตว์เลี้ยงของคุณมักจะเดินทางไกลหรืออยู่ใกล้บ้าน?
- พื้นที่ทางภูมิศาสตร์: มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่แข็งแกร่งหรือมีผู้ใช้ Apple หนาแน่นในพื้นที่ของคุณหรือไม่?
- คุณสมบัติที่ต้องการ: คุณต้องการการติดตามแบบเรียลไทม์ การติดตามกิจกรรม หรือเขตปลอดภัยเสมือนหรือไม่?
- งบประมาณ: พิจารณาทั้งค่าใช้จ่ายเริ่มต้นและค่าบริการรายเดือนที่อาจเกิดขึ้น
- ขนาดและความสบายของอุปกรณ์: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ติดตามเหมาะสมกับขนาดของสัตว์เลี้ยงของคุณและไม่ทำให้เกิดความไม่สบาย